ใครๆ ก็อยากสวย อยากดูดี มีอ่อร่า หน้าอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ซึ่งเทคนิคการร้อยไหม ถือเป็นเทคนิคหนึ่งด้านการเสริมความงามที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน โดยเฉพาะ “การร้อยไหมละลาย” เพราะเป็นสารที่ละลายได้ในร่างกาย จึงทำให้ไหมละลายได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นวิธีที่ปลอดภัย เห็นผลไว แล้วยังมีระยะพักฟื้นน้อยมากเมื่อเทียบกับการผ่าตัด
ซึ่งในที่นี่จะกล่าวถึงไหมละลายตัวล่าสุด ที่เรียกว่า ไหม SUPER V มีคุณสมบัติ ลักษณะยังไง ทำไมคุณหมอกันถึงเลือกใช้ และอยู่ได้นานแค่ไหน การเตรียมตัวต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเพื่อร้อยไหม ต้องมาดูครับ
เส้นไหม SUPER V ทำจากวัสดุที่เป็นไหมละลาย PDO (Polydioxanone) ซึ่งไหมชนิดนี้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) ทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศว่ามีความปลอดภัยในการเย็บแผล เนื่องจากเส้นไหม SUPER V มีเงี่ยง 360 องศา เวลาร้อยเข้าไปบริเวณใต้ผิวหนัง เงี่ยงของไหมจะเกี่ยวพยุงเนื้อเยื่อของใบหน้าเอาไว้ เพื่อยกกระชับผิวหน้าไม่ให้ย้อยตกลงมา เพราะสามารถดึงได้ไม่กำจัด จากประสบการณ์ที่ผ่านมาประมาณ 10 ปี ไหมตัวนี้ถือว่า ดึงยกหน้าได้ดีมากกว่าไหมรุ่นก่อน ๆ ที่เคยมีมาเลยครับ
สำหรับการร้อยไหม SUPER V นั้นสามารถทำได้ทั้งหญิงและชาย เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 20-70 ปี ขึ้นกับการหย่อนคล้อยของแต่ละคน โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง หรือต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับได้รูป สามารถละลายได้หมด 100% ตามระยะเวลา โดยไม่มีสารตกค้าง หลังจากที่ไหมละลายแล้ว ผิวหน้าที่ถูกดึงไว้จะหย่อนกลับคืนมาเล็กน้อย แต่ก็ยังกระชับกว่าก่อนร้อยอยู่ เพราะเส้นใยคอลลาเจน และอิลาสตินที่ล้อมเส้นไหมนั้นยังอยู่ ถึงแม้ไม่มีตัวไหมแล้ว เช่นเดียวกับเวลาที่ร่างกายมีบาดแผลแล้วเกิดการสมานแผลนั่นเอง
ร้อยไหม SUPER V อยู่ได้นานแค่ไหน?
โดยทั่วไปไหม PDO (Polydioxanone) เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นไหมที่ค่อนข้างละลายเร็วกว่าไหมตัวอื่นๆ ประมาณ 8 เดือน แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ไหม SUPER V สามารถยกหน้าได้ดีที่สุด และอยู่ได้ 1 ปี เนื่องจากเป็นไหม PDO ที่อัดแน่นกว่าไหม PDO ทั่วไป ซึ่งคนไข้บางเคสหากมีปัญหาใบหน้าย่อยคล้อย ไม่เรียว ต้องการยกกระชับใบหน้าเยอะ คุณหมอจะแนะนำให้เพิ่มจำนวนเส้นไหม หรือร้อยคู่กับไหมไหมกรวย เพราะจะสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นใยที่เรียกว่า คอลลาเจนและอิลาสติน ขึ้นมาล้อมรอบเส้นไหม ( Healing Process)ทั้งนี้การพยุงผิวอาจจะไม่ได้นานตามมาตรฐานทั่วไป เพราะในบางเคสที่มีปัญหาโครงสร้างผิวขาดคอลลาเจนและขาดอีลาสติน การยกพยุงจะอยู่ได้สั้นลงเพราะผิวจะหลุดออกจากเส้นไหมก่อนที่ไหมจะละลาย สำหรับเคสแบบนี้เราสามารถร้อยเพิ่มได้ หลังจากร้อยไปประมาณ 1-2 ปี เพราะไหมที่ร้อยไปก่อนหน้านี้จะสร้างอีลาสตินขึ้นมา เพื่อการร้อยไหมในครั้งต่อๆไป อยู่แล้ว
โดยทั่วไปไหม PDO (Polydioxanone) เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นไหมที่ค่อนข้างละลายเร็วกว่าไหมตัวอื่นๆ ประมาณ 8 เดือน แต่หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า ไหม SUPER V สามารถยกหน้าได้ดีที่สุด และอยู่ได้ 1 ปี เนื่องจากเป็นไหม PDO ที่อัดแน่นกว่าไหม PDO ทั่วไป ซึ่งคนไข้บางเคสหากมีปัญหาใบหน้าย่อยคล้อย ไม่เรียว ต้องการยกกระชับใบหน้าเยอะ คุณหมอจะแนะนำให้เพิ่มจำนวนเส้นไหม หรือร้อยคู่กับไหมไหมกรวย เพราะจะสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเส้นใยที่เรียกว่า คอลลาเจนและอิลาสติน ขึ้นมาล้อมรอบเส้นไหม ( Healing Process)ทั้งนี้การพยุงผิวอาจจะไม่ได้นานตามมาตรฐานทั่วไป เพราะในบางเคสที่มีปัญหาโครงสร้างผิวขาดคอลลาเจนและขาดอีลาสติน การยกพยุงจะอยู่ได้สั้นลงเพราะผิวจะหลุดออกจากเส้นไหมก่อนที่ไหมจะละลาย สำหรับเคสแบบนี้เราสามารถร้อยเพิ่มได้ หลังจากร้อยไปประมาณ 1-2 ปี เพราะไหมที่ร้อยไปก่อนหน้านี้จะสร้างอีลาสตินขึ้นมา เพื่อการร้อยไหมในครั้งต่อๆไป อยู่แล้ว
ร้อยไหมสามารถยกกระชับจุดไหนได้บ้าง ?
โดยปกติการร้อยไหมเป็นวิธียกกระชับผิวที่ช่วยแก้ปัญหา ผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องน้ำหมาก ขากรรไกร และหน้าผาก ซึ่งหากต้องการยกกระชับบางจุดบนใบหน้าที่ต่างจากที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเป็นการร้อยไหมบางจุด เช่น
– การร้อยไหมแก้มส้ม ซึ่งจะช่วยเติมเต็มแก้มส้มให้อิ่มฟู ทำให้ใบหน้าดูสดใส อิ่มน้ำ ใบหน้าแลดูอ่อนวัยเหมือนเด็กๆ ไม่หย่อนคล้อยและยังทำให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น สมส่วน ไม่แบนราบ ดูมีเสน่ห์
– การร้อยไหมใต้ต้า เหมาะสำหรับคนใต้ตาคล้ำ ร่องตาลึก เป็นภูมิแพ้ หรือเป็นภูมิแพ้ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูผิว ใต้ตาสว่างสดใสกว่าเดิม
– การร้อยไหมจมูก จะทำให้จมูกขึ้นเป็นสันได้คม และไม่ต้องการผ่าตัด สันคมสวยเร็ว แต่จะไม่ได้ตามที่ต้องการ และในอนาคตหากอยากกเสริมจมูกอาจจะเอาออกยาก
โดยปกติการร้อยไหมเป็นวิธียกกระชับผิวที่ช่วยแก้ปัญหา ผิวหนังบนใบหน้าหย่อนคล้อย ริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณแก้ม ร่องน้ำหมาก ขากรรไกร และหน้าผาก ซึ่งหากต้องการยกกระชับบางจุดบนใบหน้าที่ต่างจากที่กล่าวมาข้างต้นก็จะเป็นการร้อยไหมบางจุด เช่น
– การร้อยไหมแก้มส้ม ซึ่งจะช่วยเติมเต็มแก้มส้มให้อิ่มฟู ทำให้ใบหน้าดูสดใส อิ่มน้ำ ใบหน้าแลดูอ่อนวัยเหมือนเด็กๆ ไม่หย่อนคล้อยและยังทำให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น สมส่วน ไม่แบนราบ ดูมีเสน่ห์
– การร้อยไหมใต้ต้า เหมาะสำหรับคนใต้ตาคล้ำ ร่องตาลึก เป็นภูมิแพ้ หรือเป็นภูมิแพ้ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูผิว ใต้ตาสว่างสดใสกว่าเดิม
– การร้อยไหมจมูก จะทำให้จมูกขึ้นเป็นสันได้คม และไม่ต้องการผ่าตัด สันคมสวยเร็ว แต่จะไม่ได้ตามที่ต้องการ และในอนาคตหากอยากกเสริมจมูกอาจจะเอาออกยาก
การหาข้อมูลและเตรียมตัวก่อนร้อยไหม
สิ่งแรกที่จำเป็น คือ การเลือกคลินิก ซึ่งต้องหาข้อมูลหลายๆ ช่องทางที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถพิจารณาผลการรักษา และการปรับรูปหน้าของคลินิกแต่ละแห่งได้ นั่นก็คือ รีวิวจากคนไข้ที่มาทำจริงที่คลินิกนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ หรือวิดีโอ ถ้าจะให้น่าเชื่อถือที่สุด อาจจะเป็นภาพวิดีโอ เพราะไม่สามารถปรับแต่งได้เหมือนรูปภาพ
ต่อมาคือ แพทย์ผู้ทำหัตถการ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญ และมีประสบการณ์ในการร้อยไหม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ เพราะจะช่วยลดการบวมช้ำ ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติ ควรดูจากเคสรีวิวในแหล่งที่เชื่อถือได้ ประสบการณ์ของแพทย์ และความน่าเชื่อถือของคลินิกเป็นหลักเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหลังร้อยไหมครับ
สิ่งแรกที่จำเป็น คือ การเลือกคลินิก ซึ่งต้องหาข้อมูลหลายๆ ช่องทางที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถพิจารณาผลการรักษา และการปรับรูปหน้าของคลินิกแต่ละแห่งได้ นั่นก็คือ รีวิวจากคนไข้ที่มาทำจริงที่คลินิกนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ หรือวิดีโอ ถ้าจะให้น่าเชื่อถือที่สุด อาจจะเป็นภาพวิดีโอ เพราะไม่สามารถปรับแต่งได้เหมือนรูปภาพ
ต่อมาคือ แพทย์ผู้ทำหัตถการ ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญ และมีประสบการณ์ในการร้อยไหม เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ เพราะจะช่วยลดการบวมช้ำ ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และดูเป็นธรรมชาติ ควรดูจากเคสรีวิวในแหล่งที่เชื่อถือได้ ประสบการณ์ของแพทย์ และความน่าเชื่อถือของคลินิกเป็นหลักเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหลังร้อยไหมครับ
นอกจาก 2 ข้อที่จำเป็นข้างต้นแล้ว ก็มีข้อปฏิบัติทั่วไปเพื่อให้คนไข้ได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มีดังนี้
1.ปรึกษา ควรติดต่อสอบถาม หรือเข้ามาปรึกษาคุณหมอก่อน เพราะหากคนไข้มีสิวหรือเป็นแผลอาจจะต้องเลื่อนวันทำไปก่อน
2.วิตามินหรือยา หากคนไข้กินวิตามินที่ทำให้เลือดไหลง่ายหยุดยาก หรือเป็นรอยพกช้ำง่าย ก็อาจจะต้องหยุดพักยานั้นก่อน เพราะหลังจากที่ร้อยไหมเสร็จ จะสามารถช่วยไม่ให้พกช้ำได้
2.วิตามินหรือยา หากคนไข้กินวิตามินที่ทำให้เลือดไหลง่ายหยุดยาก หรือเป็นรอยพกช้ำง่าย ก็อาจจะต้องหยุดพักยานั้นก่อน เพราะหลังจากที่ร้อยไหมเสร็จ จะสามารถช่วยไม่ให้พกช้ำได้
การปฏิบัติตัวหลังจากที่ร้อยไหม
1.งดการนวดหน้า ในช่วง 4 สัปดาห์แรก และงดการทำกิจกรรมที่รุนแรงกับหน้าที่ต้องอ้าปากกว้าง ๆ เพราะอาจจะทำให้หน้าตึงและไหมขยับได้ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพที่ได้ไม่สูงสุด หรือลดน้อยลง
2.ประคบเย็นและกินยา ประคบเย็นประมาณ 2 วัน และควรกินยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ 3 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อไปด้วย
1.งดการนวดหน้า ในช่วง 4 สัปดาห์แรก และงดการทำกิจกรรมที่รุนแรงกับหน้าที่ต้องอ้าปากกว้าง ๆ เพราะอาจจะทำให้หน้าตึงและไหมขยับได้ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพที่ได้ไม่สูงสุด หรือลดน้อยลง
2.ประคบเย็นและกินยา ประคบเย็นประมาณ 2 วัน และควรกินยาแก้ปวด และยาฆ่าเชื้อ 3 วัน เพื่อป้องกันการติดเชื้อไปด้วย
ข้อแนะนำเพิ่มเติมหลังร้อยไหม หากคนไข้ได้รับวิตามินที่เหมาะสมอย่างเพียงพอในระยะแรก ผิวจะสร้างคอลลาเจน อิลาสตินชั้นใหม่ทำให้ผิวหน้ากระชับ ฟูขึ้น อย่างชัดเจน เป็นการใช้ประโยชน์จากกลไกฟื้นฟูตัวเองของร่างกายตามธรรมชาติ ซึ่งผลเหล่านี้จะส่งผลดีในระยะยาวหลายปีแม้ว่าไหมจะละลายไปจากร่างกายแล้วก็ตาม





ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น