50 ยังแจ๋ว กินวิตามินตัวไหนดี?

วัยทอง คือ วัยที่มีการสิ้นสุดของการมีประจำเดือนอย่างถาวรเนื่องจากรังไข่หยุดการทำงาน และเป็นการหยุดความสามารถในการเจริญพันธุ์ โดยปกติจะนับเมื่อขาดประจำเดือนมาเป็นเวลาต่อเนื่องนาน 12 เดือนหรือ 1 ปี สำหรับหญิงไทย อายุเฉลี่ยที่จะเข้าสู่วัยทอง คือ อายุประมาณ 50 ปี แล้วอาการที่ส่งสัญญาณบ่งบอกว่ากำลังเข้าสู่วัยทองมีอะไรบ้างมาดูกันครับ

1. ประจำเดือนเริ่มมาไม่สม่ำเสมอ มาติดกัน หรือห่างจากกันมาก ทั้งนี้บางรายอาจมีเลือดออกผิดปกติ
2. ผิวพรรณเริ่มแห้ง ไม่เต่งตึง ไม่ชุ่นชื้น ดูแลยากกว่าเดิม
3. เริ่มส่งสัญญาณของโรคอ้วน เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นแต่ไม่เป็นสัดส่วนจากเดิม เพราะไขมันไม่ค่อยกระจายไปตามสัดส่วน แต่เมื่อฮอร์โมนตก ไขมันจะไปเป็นส่วนๆ เช่น ลงพุง และใบหน้า ทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย
4. เมื่อเริ่มวัยทองมีโกรทฮอร์โมนจะลดต่ำลงเรื่อย ๆ ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้จะลดลงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น หรือบางรายอาจจะไม่มีการหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมาเลยก็ได้ ทำให้ร่างกายเสียสมดุล การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายก็จะลดลง อ่อนแอลง เรียกว่า ฮอร์โมนตก
5. มีอารมณ์ที่หงุดหงิด ขี้น้อยใจ อารมณ์แปรปรวนง่าย ซึ่งนับเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรับมือ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้เสียสุขภาพจิต และอาจส่งผลให้คนรอบข้างไม่เข้าใจ ส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้าได้ง่าย
6. มีอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย กระดูกบางลง
7. ปัสสาวะบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้

5 อ. สำหรับการดูแลตัวเอง ในช่วงที่กำลังเข้าสู่วัยทอง

1. อาหาร รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกอาหารที่มีประโยชน์ แคลเซียมสูง เพิ่มอาหารที่มีเส้นใย ดื่มน้ำมากๆ ลดอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาล หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง

2. อารมณ์ ควบคุมอารมณ์และฝึกการมองโลกในแง่บวก มีอารมณ์ที่แจ่มใสอยู่เสมอ

3. ออกกำลังกาย อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง นานครั้งละ 30 นาที

4. อนามัยเจริญพันธุ์ ตรวจสุขภาพประจำปี และเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ที่มะเร็งเต้านมเป็นประจำ

5. อนามัยสิ่งแวดล้อม พักอาศัย และทำงานในบริเวณที่มีสิ่งแวดล้อมสะอาด สุขอนามัยดี

ถึงคราว “50 ยังแจ๋ว กินวิตามินตัวไหนดี?” เมื่ออายุมากขึ้น หลายคนมักจะหาสิ่งดีๆให้กับตัวเอง และอาหารเสริมวิตามินตัวไหน? เหมาะสำหรับคนที่อายุ 45-50ปีขึ้นไป หรือกำลังเข้าสู่วัยทอง ตามมาดูกันเลย

วิตามินตัวไหนเหมาะกับคนวัยทองบ้าง?

โอเมก้า-3 (omega-3) และโอเมก้า-6 (omega-6) คือ “กรดไขมันโอเมก้า” สำหรับเหมาะวัยทองอย่างมาก เพราะโอเมก้าช่วยลดการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก กล้ามเนื้ออุดตัน โอเมก้าทำหน้าที่เข้าไปยึดหยุ่นไม่ให้ไขมันไปเกาะตามเส้นเลือด แต่กลุ่มโอเมก้ามีข้อเสีย คือ ทำให้เลือดหยุดยาก เพราะฉะนั้น หากต้องเข้าผ่าตัดก็ควรที่จะหยุดวิตามินกลุ่มโอเมก้าก่อน

น้ำมันตับปลา คือ “น้ำมันที่สกัดจากตับของปลาซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลาทะเล” ใช้รับประทานเพื่อเสริมวิตามินเอ,ดี และกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า 3 ช่วยลดการเกิดโรคไตในผู้ป่วยเบาหวาน ลดอาการอักเสบจากโรคแพ้ภูมิตัวเองหรือข้อเสื่อม ลดความดันโลหิต และป้องกันโรคหัวใจ แต่การรับประทานวิตามินกลุ่มตับปลา กลุ่มโอเมก้า-3 จำเป็นต้องรับประทานในขนาดที่เหมาะสม อาจทำให้ตับอับเสก

แคลเซียม เป็นแร่ธาตุที่สำคัญช่วยในการป้องกันเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก และสร้างความหนาแน่ให้กับกระดูก ลดปัญหาการเกิดโรคกระดูกพรุน เพราะยิ่งอายุเรามาขึ้น สมรรถภาพทางกายก็ยิ่งลดลง รวมไปถึงปัญหาข้อเข่าเสื่อมอีกด้วย

โคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ป้องกันช่วยโรคหัวใจได้ ทำให้การทำงานของหัวใจดีขึ้นเป็นตัวผลิตพลังงานด้วย รวมไปถึงการช่วยให้ผิวพรรณดี ปัจจุบันจึงได้มีการเอาโคเอนไซม์คิวเทน (Coenzyme Q10) ไปผสมในครีมอีกด้วย

แอสตาแซนทิน (astaxanthin) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเยื่อหุ้มเซลล์ในอวัยวะต่างๆของร่างกาย ปกป้อง DNA หรือสารพันธุกรรมในเซลล์จากการถูกทำลาย ซึ่งป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์ ป้องกันมะเร็งได้ และป้องกันเซลล์ผิวจากการถูกทำลายโดยแสงแดด

แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ละเลยไม่ได้ก็คือ การออกกำลังกาย นับว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำอย่างสม่ำเสมอ เพราะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง และยังทำให้จิตใจแจ่มใสอีกด้วย การออกกำลังกายสำหรับผู้สูงอายุ อาจเริ่มต้นจากการเดินเร็ววันละ 10-15 นาที เพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกาย และมีสุขภาพจิตสุขภาพกายที่ดี มาเริ่มต้นไปพร้อมกันนะครับ